เด็กที่ว่านอนสอนง่ายมักเป็นที่รักของคนทั่วไป
มีแต่คนคอยให้คำแนะนำสั่งสอนด้วยความเต็มอกเต็มใจมากกว่าเด็กดื้อหรือเด็กที่ชอบต่อต้าน
แน่นอนว่าเด็กประเภทนี้มักจะประสบความสำเร็จในชีวิตเพราะมีลักษณะนิสัยที่พร้อมจะรับฟังความคิดเห็น
คำแนะนำ หรือการอบรมสั่งสอนจากผู้อื่น แต่คุณพ่อ คุณแม่ หรือผู้ปกครองจะทำอย่างไร
ลูกหรือเด็กในปกครองจึงจะเป็นเด็กว่านอนสอนง่ายเช่นนี้ได้
ติดตามอ่านบรรทัดต่อจากนี้ไปได้เลยค่ะ
คะซุฮิโกะ ชิมิซุ คุณพ่อนักข่าวชาวญี่ปุ่น เจ้าของผลงานหนังสือ 60
กลยุทธ์ สร้างเด็กอัจฉริยะ ฉบับ “คุณแม่มือโปร” ได้ให้แนวคิดในการเลี้ยงดูเด็กให้เป็นคนที่มีจิตใจบริสุทธิ์และรู้จักอดกลั้นไว้ในหนังสือเล่มนี้
ว่าควรเริ่มจากการสอนลูกให้เป็นเด็กว่านอนสอนง่ายด้วยวิธีการที่หยิบยืมมาจากการฝึกพนักงานให้มีศักยภาพของบริษัทต่างๆ
ที่กำลังเป็นที่นิยม การฝึกนี้เน้นที่การ “ฟัง” “ถาม” “รับรู้” และ
“เสนอความคิดเห็น”
“ฟัง” หมายถึง
การตั้งใจฟังลูกด้วยความสนใจและพร้อมที่จะเข้าใจ กล่าวคือ เอาใจเขามาใส่ใจเรา
รับรู้พร้อมกับคิดไปด้วยกัน เช่น “อย่างนี้นี่เองหนูถึงเสียใจ ถ้าโดนว่าอย่างนั้น
แม่ก็ต้องเสียใจเหมือนหนูแน่ๆ”
“ถาม” หมายถึง เวลาพูดคุยกับลูก พยายามตั้งคำถามที่ลูกต้องตอบยาวๆ เช่น
“แล้วเรื่องนี้หนูคิดยังไง” หรือ “คราวหน้า ถ้าเกิดเรื่องแบบนี้อีก หนูคิดว่า
ควรทำยังไงดี” เพื่อจะได้ล่งรู้ความรู้สึกในใจลูก และให้คำแนะนำได้อย่างเหมาะสม
“รับรู้” หมายถึง การพูดชมเชย เพื่อให้ลูกรู้ว่า เราให้ความสำคัญและรับรู้ถึงการทำตนให้เป็นประโยชน์ของลูก
เช่น “ถ้าไม่ได้หนูช่วย แม่ต้องแย่แน่ๆ เลย”
“หนูเป็นเด็กใจดีจริงๆ แม่ชอบเด็กอย่างหนูมากจ้ะ”
การกระทำเช่นนี้จะทำให้เด็กรู้สึกว่ามีตัวตนในครอบครัว
“เสนอความคิดเห็น” คือ คุณแม่ต้องไม่ออกคำสั่งหรือคอยจ้ำจี้จ้ำไช
แต่ควรใช้วิธีเสนอความคิดเพื่อให้ลูกได้ตัดสินใจด้วยตัวเองว่าควรทำอะไร อย่างไร
อย่างเช่น แทนที่จะสั่งว่า
“ไปนอนเดี๋ยวนี้” ก็เปลี่ยนเป็น “ดึกอย่างนี้แล้วยังไม่นอน
แล้วพรุ่งนี้หนูจะตื่นไปโรงเรียนทันเหรอลูก”
ซึ่งลูกฟังแล้วจะคิดได้เองว่าควรเข้านอนได้แล้ว
ธรรมชาติของเด็ก
มักจะชอบเล่าเรื่องราวต่างๆ ให้แม่ฟัง เมื่อแม่แสดงให้เห็นว่าสนใจและตั้งใจฟัง
ลูกก็จะรับฟังคำพูดของแม่ และเป็นเด็กว่านอนสอนง่าย สุดท้ายนี้
ขอให้สนุกกับการเลี้ยงดูเด็กๆ ที่น่ารักของคุณนะคะ23.26 น. /29 ก.ค. 2557 พิมพ์มาตา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น